6
ดวงตาของเรดกะพริบเปิดขึ้น ขนตาของเธอหนักอึ้ง
ทุกอย่างขาวโพลนไปหมด—ผ้าม่านสีขาว เพดานสีขาว หมอนขนนุ่มสีขาวที่ไม่ใช่ของคนฐานะห่วยๆ อย่างเธอ
เธอกะพริบตาอีกครั้ง ชิ้นส่วนของเรื่องเมื่อคืนก็ปะติดปะต่อกันราวกับเศษแก้วที่แตกกระจายหลังจากการร่วงหล่นอย่างแรง
เชี่ยไรวะเนี่ย…
เธอผุดลุกขึ้นนั่งเร็วเสียจนผ้าห่มลื่นหลุดจากบ่า
“โอ้พระเจ้า”
เธอนึกออกแล้ว ปาร์ตี้นั่น มหาเศรษฐีคนนั้น ไอ้ขี้เมางี่เง่าที่ลากเธอขึ้นบันไดเหมือนเธอเป็นของรางวัลบ้าๆ ที่เขาชนะมาจากงานวัด
เธอช่วยเขาไว้—ทำลายงานหมั้นของเขา—ทำลายความสงบสุขในใจของตัวเอง—และตอนนี้…
“ฉันยังมาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่อีกวะเนี่ย” เธอพึมพำ พลางกวาดสายตามองไปทั่วห้องเพื่อหากระเป๋า รองเท้า หรืออะไรก็ได้ที่เป็นของเธอ
เธอกระโดดลงจากเตียง กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปเก็บของที่พื้น
จีสตริงหนึ่งตัว
ลิปสติกหนึ่งแท่ง
หมากฝรั่งซองยับยู่ยี่
เธอก้มลงไปหยิบรองเท้า ทันใดนั้นเสียงทุ้มลึกก็ตัดผ่านความเงียบราวกับคมมีด
“คิดจะไปไหน”
เรดตัวแข็งทื่อ
อย่างเชื่องช้าและเจ็บปวด เธอหันกลับไป
เขาอยู่นั่น
นิโค เบลลามี ตัวบิดาเลย
ไม่ใส่เสื้อ
มีรอยสัก
ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งตื่นจากขุมนรก
และที่แย่กว่านั้นคืออะไรน่ะเหรอ
ตื่นแล้ว
ตื่นเต็มตาสุดๆ
เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก กอดกระเป๋าไว้แนบอกราวกับเป็นเกราะป้องกัน “ฉัน...ฉันจะกลับบ้าน” เธอรีบพูด “ฉันช่วยก้นคุณชายมหาเศรษฐีเอาแต่ใจอย่างคุณไว้เมื่อคืน คุณเมา จบ เรื่องมันจบแล้ว”
เขาแค่นเสียง
แค่นเสียงออกมาเลยนะ
เหมือนกับว่าเธอเป็นคนที่ทำลายชีวิตเขาอย่างนั้นแหละ
“เธอช่วยฉัน?” เขาทวนคำ เดินไปที่มินิบาร์ หยิบขวดน้ำขึ้นมา แล้วบิดเปิดด้วยท่าทีสบายๆ แบบคนรวยที่น่าหมั่นไส้ “เธอช่วยฉันเหรอ”
“ใช่!” เธอขู่ฟ่อ “ตอนนี้คุณย่าของคุณคิดว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ จังๆ ไปแล้ว! ก็เพราะคุณคุมสติไม่อยู่แล้วลากฉันขึ้นมาชั้นบนต่อหน้าสื่อเกือบครึ่งโลกนั่นแหละ!”
นิโคหันมา ดวงตาของเขาคมกริบราวกับใบมีด กวาดตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับว่าเธอเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข
“เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” เขาพูดเสียงเรียบ “จนกว่าเราจะจัดการเรื่องวุ่นวายนี้ให้เรียบร้อย”
เรดกะพริบตา “ว่าไงนะ”
“ก็ได้ยินแล้วนี่ เธอต้องอยู่ที่นี่ ยิ้มเข้าไว้ แสร้งทำทุกอย่างเพื่อคุณย่า เพราะท่านกำลังวางแผนจัดงานแต่งงานและเชื่อสนิทใจไปแล้วว่าเธอเป็นแฟนฉัน คู่หมั้นฉัน หรืออะไรก็ตามแต่”
ปากของเรดอ้าค้างด้วยความตกใจ “คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”
“ฉันจริงจังสุดๆ” เขาพูดพลางโยนขวดเปล่าลงถังขยะเหมือนมันไม่มีค่าอะไร “เธอทำให้เรื่องมันแย่ลง เธอโผล่เข้ามาในงานด้วยท่าทางเหมือนนางฟ้านางระบำเปลื้องผ้า แล้วตอนนี้คนทั้งเมืองก็คิดว่าฉันทิ้งทายาทวาเลนติโนเพื่อเธอ”
เรดอ้าปากค้าง “คุณลากฉันมา—”
“ไม่สำคัญ” เขาพูดตัดบท “พวกเขาเลือกข้างกันไปแล้ว พวกปาปารัซซี่ชอบเรื่องแบบนี้จะตาย คุณย่าก็ดีใจสุดๆ ท่านคิดว่าเธอคือรักแท้ของฉัน เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่เราจะทำกัน”
หัวใจของเรดเต้นรัว
“เธออยู่ให้ห่างๆ ฉันไว้” นิโคพูดต่ออย่างเย็นชา “เธอต้องแสดงละคร ยิ้มเข้าไว้ แกล้งทำตัวเป็นเด็กดีที่ทำให้ฉันทิ้งทายาทสาวไว้กลางงานหมั้น”
“แล้วฉันจะได้อะไรตอบแทน” เธอถามลอดไรฟัน
“เป็นการตอบแทน” เขาพิงกำแพง กอดอก น้ำเสียงเต็มไปด้วยพิษสง “เธอก็จะได้รักษาชื่อเสียงที่พอจะเหลืออยู่ของเธอไว้ได้บ้าง ยกเว้นแต่ว่าเธออยากจะดังกระฉ่อนไปทั่วในฐานะนางแพศยาที่ยั่วมหาเศรษฐีในงานหมั้นของเขาเอง”
กรามของเรดขบกันแน่น
เธออยากจะขว้างกระเป๋าใส่หัวเขา หรือไม่ก็ต่อยหน้าคุณหนูไฮโซนั่นสักหมัด
แต่เธอทำไม่ได้
เพราะนักข่าวอยู่ข้างนอก
และเธอยังใส่แค่จีสตริงตัวจิ๋วอยู่เลย
ดังนั้นเธอจึงยืดตัวตรง เชิดหน้าขึ้น และพึมพำกับตัวเอง—
“นี่มันนรกชัดๆ”
เรดจ้องเขม็งใส่เขา พยายามรวบรวมลมหายใจและศักดิ์ศรีของตัวเองกลับคืนมา ในทางกลับกัน นิโคดูราวกับพายุที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามและอำนาจเงินตรา
กรามของเขาขบแน่นขึ้นทุกวินาทีที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าราวกับลูกแมวงงงวย
เขาหันไปช้าๆ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กระชากลิ้นชักเปิดออก แล้วดึงบัตรเครดิตสีดำออกมา ไม่ใช่แค่บัตรธรรมดา—แต่เป็นบัตรประเภทที่สามารถซื้อของได้ครึ่งค่อนเมืองเลยทีเดียว
เขาโยนมันลงบนเตียงโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ ราวกับว่ามันเป็นของติดเชื้อ
“เอาไป” เขาพูดเสียงห้วน “ไปหาซื้อเสื้อผ้าดีๆ ใส่ซะ พวกแบรนด์เนม แพงๆ ฉันไม่สนหรอก ขอแค่อย่าโผล่มาในสภาพเหมือนเรื่องฉาวเดินได้อีกก็พอ”
เรดกะพริบตาปริบๆ “นี่คุณพูดจริงดิ?”
เขาไม่ตอบ เขาแค่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ยัดมันใส่กระเป๋า แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำเหมือนทนหายใจร่วมอากาศกับเธอไม่ไหว
แต่ก่อนจะก้าวเข้าไป เขาก็หันมาหาเธอ—ดวงตาเย็นชา น้ำเสียงเฉียบขาด
“นี่คือคำเตือนครั้งสุดท้าย อย่าทำพังล่ะ เล่นละครไปตามน้ำ อย่ามายุ่งกับฉัน แล้วพอเรื่องนี้ซาลง เราก็จะกลับไปเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน”
แล้วเขาก็กระแทกประตูปิด
ความเงียบที่ตามมานั้นดังจนแสบแก้วหู
เรดจ้องประตูห้องน้ำเขม็ง
นี่มัน... เกิด... บ้าอะไรขึ้น?
เธอก้มมองบัตรเครดิตบนเตียงแล้วแค่นเสียง
นี่เธอต้องรู้สึกขอบคุณหรือไง? เหมือนเป็นของเล่นที่เขาเก็บมางั้นเหรอ?
หลังประตูบานนั้น นิโคโน้มตัวเหนืออ่างล้างหน้า ใช้มือกำขอบอ่างจนข้อนิ้วขาวซีด หายใจหอบราวกับเพิ่งผ่านสงครามมา
“บ้าเอ๊ย” เขาพึมพำกับเงาสะท้อนของตัวเอง “กูทำบ้าอะไรลงไปวะ?”
พวกสื่อ เรื่องฉาว คุณย่า... แล้วก็เธอ
เขาสาดน้ำเย็นล้างหน้า
ในบรรดาผู้หญิงทุกคน ในบรรดาค่ำคืนทั้งหมด เขาน่าจะหาเด็กเอสคอร์ตที่ไม่เปิดเผยตัวตน เพื่อนปลอมๆ หรือนักประชาสัมพันธ์มืออาชีพ—
แต่เขากลับได้เธอมา
นักเต้นระบำเปลื้องผ้า
ผู้หญิงปากจัดที่ไม่เคยกรองคำพูด ห่อหุ้มไปด้วยความวุ่นวาย สวมจีสตริงที่ราคาคงไม่ถึงร้อยบาท แต่กลับมีใบหน้าที่ตามหลอกหลอนเขาแม้ในยามที่ไม่อยากนึกถึง
กูเนี่ยนะ แต่งงานกับนักระบำเปลื้องผ้าเนี่ยนะ?
เขาคว้าผ้าขนหนูแล้วฟาดมันลงบนเคาน์เตอร์
เรดเพิ่งจะถอดชุดคลุมอาบน้ำหนาเตอะของโรงแรมออก ขี้เกียจเกินกว่าจะคุ้ยหาเสื้อผ้าดีๆ มาใส่จากกองเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง เธอยืนอยู่ตรงนั้นในสภาพสวมแค่จีสตริงตัวเก่าสีซีดกับเสื้อยืดเก่าๆ หลวมๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนรังนก ใบหน้ายังคงงัวเงียกึ่งหลับกึ่งตื่น เธอเพิ่งหยิบบัตรเครดิตบ้าๆ ของนิโคจากโต๊ะข้างเตียง ตั้งใจว่าจะปามันใส่หน้าเขา แต่แล้ว—
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปากถามว่า “ใครคะ” ประตูก็แง้มเปิดออก และคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดก็เดินเข้ามา
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ คู่รักข้าวใหม่ปลามัน!” คุณย่าทักทายเสียงหวานปานน้ำผึ้งเจือแววซุกซน
เรดตัวแข็งทื่อ ตาเบิกกว้าง มือยังคงถือบัตรสีดำค้างอยู่กลางอากาศ ต้นขาเปลือยเปล่าปรากฏสู่สายตาชาวโลก
คุณย่ากะพริบตาหนึ่งครั้ง แล้วก็อีกครั้ง จากนั้นมุมปากของท่านก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่รู้ทัน
“โอ๊ยตาย...” คุณย่าพูดพลางทาบมือบนอกอย่างมีจริต “นี่มันไม่ใช่ชุด ‘ขอบคุณ’ ที่ย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นบนตัวว่าที่หลานสะใภ้เลยนะจ๊ะเนี่ย”
เรดแทบสำลักอากาศ
“อะไรนะคะ?! ไม่! มันไม่ใช่อย่างที่คุณย่าเห็นนะคะ—หนูไม่ได้—” เธอตะเกียกตะกายหาชุดคลุมจนสะดุดขาตัวเอง
คุณย่าแสยะยิ้มกว้างขึ้นอีกแล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้ ลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบหยอกเย้า
“งั้น... บอกย่าหน่อยสิจ๊ะ ที่รัก” ท่านพูดพร้อมประกายในดวงตา “เมื่อคืนเขาอ่อนโยนกับหนูไหม... หรือว่าเอาอย่างคุณปู่เขาจนเตียงแทบหักเลย หืม?”
“อะไรนะคะ?!” เรดร้องเสียงหลง แทบจะพุ่งหลาวไปหลบหลังเตียงราวกับมันเป็นโล่กำบัง
และในตอนนั้นเอง—
คลิก
ประตูห้องน้ำเปิดผางออก และนิโคก็เดินออกมาในสภาพที่มีผ้าขนหนูพันเอวไว้หมิ่นเหม่ หยดน้ำยังคงไหลลงมาตามมัดกล้ามหน้าท้อง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“ใครมาส่งเสียงดัง—”
เขาชะงัก
เห็นเรดในสภาพกึ่งเปลือยอยู่หลังเตียง
เห็นคุณย่ากำลังแสยะยิ้มเหมือนปีศาจในชุดไข่มุก
เขาถอนหายใจราวกับอายุเพิ่มขึ้นห้าปี
คุณย่าหันไปหาเขา ใบหน้าดูไร้เดียงสาแต่น้ำเสียงเฉียบคม
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ นิโค ย่าเห็นว่าหลานยัง... ชุ่มชื่นอยู่เลยนะ”
นิโคหลับตาลง นวดขมับของตัวเอง
“คุณย่าครับ ได้โปรด กลับบ้านไปเถอะครับ”
คุณย่าไหวไหล่ “ย่าก็แค่อยากมาดูว่าคืนแรกของการเป็นสามีภรรยาเป็นยังไงบ้าง”
“เราไม่ได้—” เรดเริ่มพูด
แต่คุณย่าก็ยกนิ้วขึ้นห้าม “อย่าพูดแบบนั้นต่อหน้าสามีสิจ๊ะ ที่รัก เอาล่ะ รีบไปแต่งตัวดีๆ ได้แล้ว อีกชั่วโมงนึงหลานต้องไปทานมื้อสายกับครอบครัวนะ”
